การฉีด Growth Factor ผมคืออะไร?
การฉีด Growth Factor ผม เป็นวิธีการรักษาผมร่วงผมบาง และศรีษะล้านที่ได้รับความนิยมในการรักษากันในปัจจุบัน โดยใช้ปัจจัยการกระตุ้นและโปรตีนที่เป็นสารสำคัญที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์รากผมที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่. เมื่อฉีด Growth Factor ในบริเวณที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง เพื่อฟื้นฟูและทำให้ผมที่งอกออกมาใหม่มีขนาดเส้นผมที่หนามากขึ้นและแข็งแรงมากขึ้น
การฉีด Growth Factor มักใช้ร่วมกับการใช้เข็มขนาดเล็ก ซึ่งเป็นการรักษาที่มีการบาดเจ็บน้อยที่สุด โดยใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผิวหนังและสร้างอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ สิ่งนี้กระตุ้นการตอบสนองการรักษาตามธรรมชาติของร่างกายในบริเวณรากผมนั้น ทำให้มีโปรตีนและออกซิเจนไปเลี้ยงรากผมมากขึ้น ส่งผลให้มีการกระตุ้นสเต็มเซลล์รากผมและซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ การฉีด Growth Factor ผม สามารถกระตุ้นสเต็มเซลล์รากผมให้กลับมาทำงานและงอกผมขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง พร้อมทั้งบำรุงเซลล์รากผมให้กลับมาแข็งแรง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมบางได้ในระยะยาว ทำให้ผมกลับมาดูหนามากขึ้น
ทำไมต้องฉีด Growth Factor เพื่อ #รักษาผมร่วง?
การฉีด Growth Factor ผมนี้ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเส้นผม ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาผมร่วงมากกว่าการรักษาแบบไม่ผ่าตัดอื่นๆ และการฉีด Growth Factor ผมนี้จะหยุดผมร่วงและเพิ่มจำนวนของเส้นผมในผู้ป่วยมากกว่า 80%
ประโยชน์ของการฉีด Growth Factor ผม
- ซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ
- เพิ่มจำนวนและขนาดเส้นผมที่แข็งแรงขึ้น
- กระตุ้นสเต็มเซลล์รากผมให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม
- ทำให้เส้นผมดกดำเงางามขึ้น และลดการหลุดร่วงของเส้นผม
- ประสิทธิภาพสูงถึง 80 %
ระยะเวลาเห็นผลของการฉีด Growth Factor ผม
ผลลัพธ์หลังการฉีด Growth Factor ผม เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ใน 1-3 ครั้งแรก และผลลัพธ์ชัดเจนใน 6-8 สัปดาห์
-
Ultherapy หน้ายก กรอบหน้าชัด คุณหมอเจนแนะหน้าเป๊ะต้องกี่ Line
-
โปรแกรมไหมน้ำ นวัตกรรมที่ช่วยกระตุ้น ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ฉีดได้ทุกส่วนบนใบหน้าและคอ #ฉีด1 ขวด เทียบเท่าการร้อยไหม 1,427 เส้น
-
#Ultherapy เทคโนโลยีหลักในการยกกระชับผิวตอบโจทย์สำหรับทุกวัย ด้วยเทคนิค Surgeon Vector เจ็บน้อย ยกนาน วางแผนการรักษาอย่างละเอียดทุกเคส
-
ไข้เลือดออกระบาดหนักมาก อันตรายถึงเสียชีวิต ‼️ มาฉีดวัคซีนกันเถอะ
-
Ultherapyเป็นเทคโนโลยีที่ส่งผ่านพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง ลงลึกไปถึงบริเวณเนื้อเยื่อชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า โดยคลื่นเสียงนี้จะลงไปเป็นจุดเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ และทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร ซึ่งแพทย์จะสามารถมองเห็นชั้นผิวหนังผ่านหน้าจอในขณะทำ แพทย์จะประเมินและควบคุมได้ทันที จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาและมีความปลอดภัยสูง